Monday, October 23, 2006

เลิกอ่านเถอะ...

ผมมันคนเลว...คนบอกไว้อย่างนั้น
ไม่ต้องเข้ามาอ่านแล้ว...พอแล้ว ผมอยู่แบบนี้ไม่ได้หรอก
ผมจะอยู่แบบผม...พวกคุณก็อยู่แบบของคุณ

2 comments:

นุ่น said...

เป็นสามบรรทัดที่อ่านวนไปเวียนมาราวความยาวของมันมากกว่านั้น
โดยปรกติหากสิ่งใดก็ตามที่เราชอบคิดไปจากชีวิต
เราจะรั้งไว้
หลังๆ เพิ่งคิดได้เป็นพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวเกินไป...

...........
ก่อนเคยคิดว่ารักต้องอยู่ด้วยกันตลอด
เติบโตจึงได้รู้ความจริง...

หากเคียงชิดใกล้...แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน
ประโยชน์ที่ใด...หากรักทำร้ายตัวเอง
แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย
เพื่อให้เธอได้ตามหาฝันของเธอ

เรียนรู้รักอย่างรู้คุณค่า...ฝันไม่ไกล
บินไปตามทางหาดวงตะวัน...ที่เธอต้องการ
ไม่มีฉุดรั้ง ไม่มีดึงดัน...เราเข้าใจ

ก่อนเคยคิดว่ารักต้องอยู่ด้วยกันตลอด
เติบโตจึงได้รู้ความจริง...

หากเคียงชิดใกล้..แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อนฉัน
ประโยชน์ที่ใด...หากรักทำร้ายตัวเอง

ประโยชน์ที่ใด...หากรักทำร้ายตัวเอง

ประโยชน์ที่ใด...หากรักทำร้ายตัวเอง

หากเคียงชิดใกล้..แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อนฉัน
ประโยชน์ที่ใด...หากรักทำร้ายตัวเอง

นุ่น said...

ตอนนี้กำลังฟังเพลงวงพอส...
ไพเราะมาก...เมื่อฟังตอนดึกๆ
คิดถึงเรื่องตอนเด็ก คิดถึงพี่โจ้
คิดถึงเรื่องดีๆ

ฟังไป พลางคิดไปว่า...
หากไม่เผลอหลับตอนห้าทุ่ม
หากตื่นก่อนห้าทุ่มยี่สิบนาที
จะได้คุยกับคนคนหนึ่งมั้ย
หรือเขาจะคุยกับเรามั้ย...

เล่าอะไรให้ฟัง...
ที่บ้านนุ่นมีแผ่นพอสอยู่แผ่นเดียว
นุ่นคงไม่เรียกว่าตัวเองเป็นแฟนพันธุ์แท้พอสหรอก
แต่ถึงจะมีแค่แผ่นเดียว...นุ่นก็ยังมั่นใจว่าตัวเองรักวงนี้มาก

ความรักของคนอื่นอาจหมายถึงการเอาใจใส่
อาจหมายถึงรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคนที่ตนรัก
แต่ไม่ใช่ในกรณีความรักของนุ่น

ไม่ว่าจะคนหรือสิ่งของ
ต่อให้รักแค่ไหนนุ่นก็ไม่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาอยู่ดี
และนุ่นไม่พยายามที่จะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาด้วย

ทำไมเราจะต้องรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคนหรือสิ่งที่เรารัก
...ไม่เห็นจำเป็นเลย

นุ่นกลับรู้สึกว่าการยอมให้มีความลับระหว่างกัน...นั่นต่างหากแปลว่ารักจริง

ยอมให้เขามีโลกส่วนตัว
ยอมให้เขามีความลับกับเรา

มาถึงตรงนี้...เกี่ยวไรกับวงพอส
หรือเกี่ยวไรกับการมีแผ่นพอสเพียงหนึ่งแผ่น

ไม่เกี่ยวหรอก (มั้ง)

เล่าเพราะรู้สึกว่าบล็อกนี้เหงา...

เคยมั้ยเห็นคนอื่นร้องไห้แล้วตัวเองร้องตาม
นี่ก็เหมือนกัน...
เห็นใครเหงาก็เหงาตาม
ถ้านุ่นพูดอย่างนี้กับคนทั่วไป...แปลว่าตอแหลนะ

ในความรู้สึกนุ่น...พี่ก็เหมือนวงพอสล่ะ
ได้ฟังพอสประจำ...จนผูกพัน
ตามอ่านประจำ...จนผูกพัน

จำได้วันที่พี่โจ้ตาย...นุ่นร้องไห้
ร้องพร้อมคิดว่า...แม่งคนร้องเพลงห่วยเยอะแยะไมไม่ตาย

อืม พาล

มาถึงตอนนี้...เริ่มถามตัวเอง
หากวันหนึ่งพี่สิบตาย...ไปจากการเขียน
นุ่นจะร้องไห้มั้ย...

คิดว่าไม่...อย่างมากแค่โหวงๆ
เพราะร่างกายของพี่ยังอยู่ดี

แต่คิดอีกที...
เป็นไปไม่ได้ที่พี่จะเลิกเขียน...ถ้าพี่ยังมีชีวิต
เหมือนกับที่เป็นไปไม่ได้ที่พี่โจ้จะเลิกร้องเพลง
...หากพี่โจ้ยังมีชีวิต

หรือพี่คิดว่าไง?

ไปล่ะ...
พิมพ์เยอะขนาดนี้...ค่อยรู้สึกว่าบล็อกนี้ไม่เหงาหน่อย
อิอิ ^-^