Friday, October 20, 2006

เรื่องของวันวาน...

กีตาร์นี่ปกติมันมีอยู่หกสาย ผมเคยเล่นกีตาร์ที่มีมากกว่าหกสายมันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าหกสายแต่อย่างใด ครั้งแรกที่ผมหัดเล่นกีตาร์เพราะว่ามันเหงา แม้คนในครอบครัวผมจะเยอะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ต้องเหงานี่ ผมเป็นลูกคนสุดท้อง หลังจากที่พ่อเสียญาติของพ่อที่ไม่ชอบแม่คงมองว่าแม่คงลำบากที่จะเลี้ยงลูกหกคน สามคนที่ถูกขอเอาไปเลี้ยง คงเหลือแต่สามคนสุดท้ายที่เหลือ ผมเองก็มีคนขอเอาไปเลี้ยงแม่บอกว่าผมร้องไห้ไม่ยอมไปท่าเดียว น่าแปลกที่ผมจำตอนนี้ไม่ได้ ผมจำได้แต่เพียง ภาพบางภาพ ...มีทั้งสุขและมีทั้งเศร้า

ผมมักจะโดนตีอยู่บ่อยๆในตอนที่เป็นเด็กเพราะว่าผมซน แม่คงเครียดเรื่องการหาเงินเพื่อมาจุนเจือครอบครัว ผมไม่เคยโกรธแม่เลยแม้แต่ในตอนที่ผมโดนตี ทุกครั้งที่ผมโดนตีในตอนเด็กถึงผมเจ็บผมก็จะเข้าไปกอดแม่ไว้ บางครั้งแม่ก็ร้องไห้ตามผม ผมรู้ว่าแม่เหนื่อยแค่ไหนเวลามีคนมาทวงเงินที่บ้าน ผมเองก็เกือบไม่ได้เรียนหนังสือเพราะแม่ไม่มีเงิน น่าแปลกที่ผมเองก็ไม่ได้มีความอยากที่จะได้ไปเรียนเหมือนคนอื่นๆ ความจนนี่มันทำให้เราเข้าใกล้ไปกับชีวิตมากขึ้นทุกทีๆ ผมไม่อยากอ่านหนังสือหรืออยากดูหนังเป็นบางครั้งเพราะว่าคนเขียนมักมองข้ามเรื่องพวกนี้ไป ทั้งที่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ มันตลกไหม มีหนังสือหรือหนังกี่เรื่องที่บอกว่า เฮ้ยเครียดว่ะ อยากไปดื่ม แต่กูไม่มีเงินมึงเลี้ยงได้ไหม มีไหมที่พระเอกและนางเอกแม่งไม่มีเงินทั้งคู่ ถึงมีมันก็น้อยไง ผมไม่เข้าใจ


ครั้งหนึ่งที่แม่หนีออกจากบ้านไป ผมจำไม่ได้ว่านานเท่าไหร่แต่คิดว่าเกือบปี ครั้งนั้นพี่สาวอีกคนก็ถูกรับไปเลี้ยงหายไปอีกหนึ่ง เหลือผมกับกับพี่คนที่สี่ ตอนนี้ผมจำได้ ผมไม่ยอมไป ผมจะรอแม่อยู่ที่บ้าน แม่แดงที่เป็นคนงานบ้านผมเก่าแก่ตอนนี้การเป็นคนเลี้ยงดูผมและพี่สาว แม่แดงเป็นแค่ภารโรง แกเองก็มีลูกสี่คนลำบากเพราะว่าต้องส่งเสียเรียนหนังสือ แต่ในทุกๆ วันแม่แดงต้องหาข้าวมาให้ผมกินและคอยกล่อมผมให้หลับในทุกๆ คืน ค่าไฟที่ค้างเอาไว้ทำให้บ้านผมไม่มีไฟฟฟ้าใช้ เป็นหน้าหนาวก็ต้องหนาว เป็นหน้าร้อนก็ต้องร้อน ครั้งหนึ่งแม่แดงบอกผมก่อนนอน เป็นเพราะพ่อผมฝากไว้ก่อนเสียขอให้ดูแลผมด้วยเพราะผมยังเด็ก ผมฟังแม่แดงอย่างตั้งใจ ผมไม่เคยรู้สึกดีกับพ่อมาก่อนจนกระทั่งตอนนั้น อย่างงี้แหละคนตายยังมาห่วงคนเป็น คนแบบนี้น่ารักนะ ตัวเองป่วยมากแล้วยังมาห่วงคนอื่น แม่แดงเอามือลูบหัวผมเบาๆในทุกคืน จะมีสัญญาณบอกว่าผมใกล้จะหลับแล้วคือ ผมจะถามแม่แดงว่า "แม่แดง แม่ผมจะกลับมาเมื่อไหร่" มักไม่มีคำตอบกลับจากแม่แดง มีเพียงแต่สัมผัสที่อ่อนนุ่มกว่าเดิม เหตุการณ์ที่แม่หนีไปในคราวนั้นทำให้ผมมองทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ผมเริ่มกลัวผู้คนแถวบ้าน ผมเดินไปไหนก็จะมีคนมองผมเหมือนตัวประหลาด พูดแต่เรื่องความเศร้าของชีวิตผม


วันหนึ่งในวัยเด็ก...แม่แดงกลับบ้านมาช้า ผมและพี่สาวหิวมากแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร พี่สาววิ่งไปโขมยไข่ที่ร้านขายของชำแถวบ้านมาสามใบ โชคไม่ดีโดนเจ้าของร้านจับได้ แต่เจ้าของร้านไม่ได้ใจร้ายนักจึงให้น้ำมันกับถ่านมาด้วย เราสองคนพี่น้องถอดไข่กินอย่างเอร็ดอร่อย นานแล้วที่ไม่ได้กินไข่สามใบสองคน อย่างหรูที่สุดในตอนนั้นก็คือไข่คนละใบ เราเรียกร้องอะไรจากแม่แดงไม่ได้มากเพราะแม่แดงเป็นแค่ภารโรง เย็นวันนั้นหลังจากแม่แดงกลับจากที่ทำงานมาเห็นพวกเรากินไข่และรู้จากเจ้าของร้านจึงโมโหลูกของตัวเอง เพราะสั่งไว้ก่อนหน้านี้ว่าให้หาข้าวให้น้องกินด้วย เพิ่มความเกลียดชังให้กับความรู้สึกของลูกๆแม่แดงกับผมสองคนพี่น้องไปอีก จำได้วันนั้นแม่แดงไม่ได้ต่อว่าพี่สาวผม อาจเป็นไปได้ว่ามันร้องไห้ไปก่อนแล้วเพราะกลัวโดนตี แม่แดงมาหาพร้อมไข่สิบใบ บอกว่าถ้าหิวอีกให้ไปเซ็นไว้ก่อนเดี๋ยวแม่แดงจะไปจ่ายเอง


"พี่ว่าแม่จะกลับมาไหม"ผมถาม
"ไม่กลับมาก็ไม่เป็นไรแล้ว" พี่สาวผมเสียงสั่นเครือตอบ
"ทำไมล่ะ ผมอยากไปเรียนหนังสือแล้ว คนอื่นเขาเข้าเรียนหมดแล้วนะ"
"คุณยายสมศรีบอกให้พี่ไปทำงานที่บ้านแล้ว คราวนี้เราก็จะมีข้าวมีน้ำกินแล้ว เรื่องโรงเรียนหยุดไปก่อนก็ได้"พี่ผมตอบ
"พี่ได้ทำงานบ้านคุณยายเหรอ คุณยายแกดุนะ ผมไปขอดูทีวีแกยังไม่ให้ดูเลย แกชอบดูแต่ข่าว"
"ถ้าเราอยากมีไข่กิน เราก็ต้องทำงาน เราจะได้ไม่หิวอีก"
"ทำไม ไม่มีใครที่เป็นพวกพ่อเรามาหาเราบ้าง"
"เราไม่ได้โทร ถึงโทรไปพวกนั้นก็คงไม่อยากมา คนพวกนั้นไม่ชอบแม่ เพราะว่าแม่เป็นคนไทย และคนพวกนั้นไม่ชอบเราเพราะว่าเราเลือกที่จะอยู่กับแม่"
"แล้วพี่ว่าเราเลือกผิดไหม"
"คำถามนี้แม่น่าที่จะเป็นคนตอบ เรานั้นไม่รู้หรอก"พี่ร้องไห้แล้ว
"พี่ร้องไห้ทำไม ผมยังไม่ร้องไห้เลย ผมรู้ว่าแม่จะกลับมา"
"แกว่า แม่จะกลับมาไหม"พี่สาวผมถาม
"พี่ถามเหมือนที่ผมถามพี่เลย"ผมหัวเราะ พี่สาวผมก็หัวเราะ ในคืนนั้นเราทั้งคู่หัวเราะกันสองคน ผมจำได้ว่าเป็นคืนวันศุกร์เพราะแม่แดงไม่ต้องไปทำงานในวันรุ่งขึ้น คืนนั้นบนเตียงมีกันอยู่สามคน ผม พี่สาวและแม่แดง เราคุยกันตอนที่แม่แดงหลับไปแล้ว วันนี้แม่แดงคงเหนื่อยเลยหลับไปก่อน ผมยังจำได้ในคืนนั้นผมกล่าวต่อ
"พี่ดูซิ แม่แดงหลับแล้วยังมีน้ำตาไหลออกมาอีก"


ไม่มีเสียงตอบรับใดจากพี่สาวและแม่แดง มีแต่การเคลื่อนไหวเล็กน้อย เป็นคนหลับที่เอามือมาปาดน้ำตาและโอบกอดผมและพี่สาวมาอยู่ที่อ้อมอก
................................................

5 comments:

keerati said...

เรื่องบางเรื่อง เรากลบด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความมั่งมีในปัจจุบัน กลบมิดอย่างไร มั่นใจว่ามิดแล้ว

สุดท้าย บางสิ่งก็สะกิดมันออกมาจนได้

เรื่องของครอบครัวเราตอนเด็ก แปรปรวนใช่ย่อย

เดี๋ยวเราไปเขียนบันทึกบ้าง

คิดถึงเรื่องเมื่อวานนี้เหมือนกัน

ดีใจนะที่วันนี้ได้มาอ่านอะไรแบบนี้


นี่ไม่ใช่คำชม คำยอหรอกนะ..ไม่ต้องเขิลลล


สบายดีนะ หวังว่าเธอจะยิ้ม และหัวเราะ ให้ฉันบ้าง


สักวัน

Anonymous said...

เรื่องมันเศร้ามาก
รันทดจัง
ยังดีที่ยังมีแม่แดง

แบบนี้กระมัง
คนจึงมักจะข้ามไปเล่าเรื่องอื่นแทน
จริงๆ ทุกคนในโลก
อาจมีเรื่องเศร้ารันทดในครอบครัวเหมือนกัน
แต่มันเศร้ามาก รันทดมาก
จนไม่อยากจะพูดถึงก็ได้น่ะ

นุ่น said...

อืม อืม อืม ความลำบากทำให้เราเข้าใจอะไรๆ ที่เกิดกับชีวิตได้ง่ายขึ้น

คิดถึงแม่จัง...

ขี้เกียจบอก said...

เศร้า ...สู้ ..
สู้ๆ นะ

Anonymous said...

กะว่าพยายามไม่ใส่ใจกับเรื่องเศร้าเท่าไหร่ เเต่ไหงมันดันจำได้ดีกว่าเดิมก็ไม่รู้ ...