Monday, November 17, 2008

ผมว่าผมทำใจได้แล้ว

คงถึงเวลาแล้วล่ะที่ผมควรจะเริ่มต้นใหม่ มองไปข้างหน้า ผมคิดว่าผมเดินต่อไปข้างหน้าได้แล้ว ราวสี่ปีแล้วที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เหมือนที่ชีวิตที่ผ่านมาสิ้นค่าไร้ประโบชน์ ความทรงจำของผมที่มีชีวิตก่อนหน้านั้นเหมือนเป็นภาพยนตร์ที่ผมเคยผ่านหูผ่านตา มันไม่เหมือนชีวิตผมเลยสักนิด ผมสูบบุหรี่จัดมากในช่วงนี้ แย่ตรงที่ว่านักสูบอย่างผมยังรู้สึกตัว วันใดที่"ดอน คิง"บอกว่า "เฮ้ย รู้สึกว่าเราจะดูมวยมากไปนะ" ความรู้สึกประมาณนั้นเข้าใจใช่มั้ย


เธอโทรมาหาผมหนึ่งครั้งหลังจากที่ผมบอกเธอว่าเราไม่ควรจะพูดคุยกันอีก เธอกำลังจะแต่งงาน ส่วนผมยังเป็นเพื่อนที่ดีของเธอไม่ได้ ไม่มีหรอกการตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างเราสอง วันหนึ่งเราต้องกลับมาคุยกันเหมือนเดิม เพียงแต่รอให้เรารู้ชัดถึงตำแหน่งที่เราสองคนยืนเสียก่อน ผมต้องเป็นเพื่อนที่ดีของเธอให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องรู้สึกมั่นใจว่าผมต้องทำได้ เธอต้องเลิกสงสารผมและเลิกให้ความหวังลมๆแล้งด้วยคำพูดที่เธอคิดว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าเป็นไปตามที่คาดหวัง เราจะได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง เราคงไม่ได้คุยเรื่องเก่าๆที่เราเคยทบทวนบ่อยๆ เธอคงเล่าเรื่องคนรักของเธอ ผมคงเล่าเรื่องการงานการเขียนหนังสือโปรเจคกระจอกงอกง่อยของผม เราต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เธอน่าจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ลูกสาวที่เธอฝันไว้ เด็กหัวหยิกและแก้มแดงใส่ชุดกระโปรงสีแดงลายจุดขาว ผมอาจจะมีแฟนสักคน อาจคบแบบรักๆเลิกๆ เธออาจเป็นที่ปรึกษาเรื่องราวความรักของผม ส่ายหัวเมื่อผมถูกหักอกอีกครา เราดื่มด้วยกัน และสามีเธอก็เพื่อนสนิทของผมในเวลาต่อมา


เช้าวันนี้ผมรู้สึกสดชื่นแม้ว่าเมื่อคืนผมจะดื่มหนัก ผมเน้นย้ำกับตัวเองว่าต่อไปนี้ผมต้องอดทนมากกว่าเดิม อย่าเจ้าอารมณ์ ผมเคยรับมือกับอารมณ์ได้ดีกว่านี้ ผมต้องเป็นคนดีอย่างที่ถูกที่ควร รู้จักการให้อภัย และช่วยเหลือคนที่แย่กว่าเรา ผมกำหนดรายละเอียดคร่าวๆในอากาศ และหวังว่าผมคงไม่ต้องกลับมาดูมันบ่อยนัก

***********

No comments: