Tuesday, February 10, 2009

สูญสิ้นในตัวเอง

เมื่อใดก็ตามที่คุณสูญสิ้นในตัวเองเมื่อนั้นคุณจะรู้สึกทุกอย่างมันล่องลอย เวิ้งว้าง โลกที่คุณเคยรู้จักคล้ายทำให้คูณเหมือนคนแปลกหน้า คุณเป็นคนแปลกหน้าที่จุดๆนั้น คุณจะรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจคุณเหมือนอย่างที่คุณอยากให้เข้าใจ แต่สุดท้ายคุณก็จะเข้าใจได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดทั้งสิ้นมันก็ควรเป็นเช่นนี้ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่ว่าคนรักคุณ ไม่ว่าเพื่อนสนิท ไม่ว่าบิดามารดา บางครั้งทุกคนก็กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวสำหรับคุณ

ผมชิงชังความรู้สึกนี้แต่ผมก็ไม่อาจหลีกเลี่ยง

เมื่อคราวที่ผมทนทุกข์ใจผมแยกไม่ออกว่าอะไรดีอะไรเลว ผมไม่รู้ว่าคนที่พร่ำสอนผมให้รู้จักอดทนหรือรู้สึกสู้ชีวิตเคยเป็นอย่างผมหรือไม่ เค้าเคยโดนเพื่อนสนิทแทงข้างหลังหรือเปล่า เค้าเคยโดนคนรักสวมเขาให้เค้าในคราที่เขาเดินออกจากบ้านตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นเพื่อไปหาความสุขมาให้เธอ เขารู้หรือเปล่าว่าไม่มีคืออะไร ไม่มีคือไม่มีสักบาท ไม่ใช่มีอยู่น้อยนิดแล้วบอกไม่มี...เขาเข้าใจคำว่าไม่มีหรือไม่ อดทนล่ะ..เขาเหล่านั้นรู้หรือเปล่าอดทนที่แท้จริงมันคืออะไร การรอให้เจ้านายกินข้าวอิ้มก่อนแล้วเราค่อยอิ่มงั้นหรือ เขาเคยรู้หรือเปล่าว่าความอดทนนั้นมันหนักหนาสาหัสเพียงไร พวกเขาเหล่านั้นรู้หรือเปล่าว่าเมื่อสูญสิ้นทุกอย่างเป็นอย่างไร เมื่อไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีมิตสหาย ไม่มีคนรัก ไม่มีเงิน และคุณไม่สามรถอยู่กับที่ได้ เปรียบเสมือนคนที่ถูกตามล่า ระหว่างทางคุณทำเช่นไร คุณคงคิดอยากจะกลับบ้าน และคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อคนที่เป็นคนในครอบครัวของคุณปิดประตูใส่หน้าคุณในขณะที่คุณต้องการความช่วยเหลือในขณะนั้น

กรรม..

เมื่อคุณอยู่กับการชดใช้นานจนเกินไป คุณจะรู้สึกได้ว่าจริงๆแล้วโลกเราไม่มีพระเจ้าหรอก ไม่มีอะไรใดใดทั้งนั้น หลายคนที่คุณมองเห็นเค้ายังอยู่ดีทั้งที่คุณก็รู้ว่าเขาไม่ได้ทำดี เมื่อถึงจุดนั้นคุณก็จะรู้ว่ากรรมมันเป็นข้ออ้างเพื่อปลอบใจในเวลาที่คุณท้อแท้หรือเวลาที่ใครบางคนพลั้งพลาด มันเป็นแค่ข้อสมอ้างที่สมมติขึ้นทั้งนั้น

ความสูญสิ้นทำให้คุณครวญคิด...คุณจะต่อสู้กับมันหรือคุณจะยอมแพ้

บางครั้งเมื่อเวลามาถึงคุณต้องตัดสินใจ จะอยู่หรือจะไป

ผมจะสู้ต่อผลกรรมในบาปในภายภาคหน้าที่ผมจะลงมือกระทำ หากแม้นผลตอบสนองในกรรมมีจริง ผมก็จะไม่ปริปากบ่น โดยเฉพาะคำว่าความตาย..เช่นนั้นเพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมถวิลหาตั้งแต่ครั้งแรกอยู่แล้ว

........................

No comments: