Saturday, September 29, 2007

"do not let me be lonely tonight"

ช่วงนี้ผมมีปัญหากับตัวเองอย่างหนัก ฟุตบอลที่เคยดูแล้วสนุกกลับเป็นไม่สนุกเหมือนเคย เพลงที่เคยฟังแล้วรู้สึกดีอย่างไม่มีเบื่อเป็นคราวนี้ที่แตกต่างกันออกไป และสำคัญตรงที่แม้นไม่ได้เปิดฟัง...เพียงแค่คิดถึงก็เกิดการรำคาญแล้ว

ผมสับสนทั้งที่ทุกอย่างกำลังจะดี

มันคงแปลกประหลาดนะถ้าคุณรู้ว่าทางที่คุณกำลังเดินไปจะมีจุดหมายปลายทางไปที่ที่ใครหลายคนฝันไว้ และเป็นปลายทางที่ใครหลายคนมุ่งหวัง...ใช่แล้ว ผมก็เคยมุ่งหวังที่จะไปปลายทางนั้นให้ได้ และผมก็เคยเดินทางไปแล้ว อย่างที่ผมบอกว่ามันคงแปลกถ้าคุณรู้ว่าปลายทางที่คุณกำลังเลือกเดินไปแม้จะมีทุกอย่างที่คุณรออยู่แต่คุณกลับลังเลที่จะเลือกปลายทางแห่งนั้น

ผมชอบความมั่งมีแต่ผมก็ไม่ลืมความอดอยาก ผมชอบอิ่มแต่ความอดสอนอะไรผมได้มากกว่าความอิ่ม ผมคลั่งการมั่งคั่งแต่ความยากไร้กลับสอนผมในเรื่องน้ำใจและการให้...เวลาผ่านผมกลับลืมเลือนสิ่งที่ผมอยากได้ไปเสียแล้ว

สองปีที่ยากไร้..สองปีที่อดยาก แต่ก็เป็นสองปีที่ชีวิตเต็มไปด้วยชีวิต ได้รู้ว่าภาพไหนจริงและภาพไหนเป็นมายา เป็นสองปีที่คุ้มค่าผมคิดเช่นนั้น

ผมยืนอยู่บนปลายทางที่จะเลือกเดินทางที่เห็นจุดหมาย ผมยืนอยู่อย่างสับสน

ขวาคือชีวิตที่ชื่นสุขดั่งเดิม..ส่วนซ้ายเป็นชีวิตที่ลุ้นระวังทุกขณะ

จะมีประโยชน์อะไรหากมือเราเต็มไปด้วยเงินแต่กลับเป็นคนที่ไร้หัวใจ จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราจะกลับไปในเส้นทางที่เต็มไปด้วยมายา

"ความอดอยากไม่ใช่เหรอที่สอนผมให้เป็นคน"

..........................

1 comment:

Anonymous said...

ไม่ว่าทางขวา หรือทางซ้าย
ไม่ว่าทางไหนๆก็เป็นเราทั้งนั้นที่เลือกเดิน

'do not let me be lonely tonight'
ถ้าเราเลือกที่จะโดดเดี่ยว เราก็ได้โดดเดี่ยวสมใจ
แต่ถ้าเราไม่ ใครก็ห้ามเราไม่ได้

ไม่ได้อาจหาญ 'สอน'นะพี่
เรื่องราวของพี่ที่เขียนมันพาไป
เข้าใจกันไช่ไหมคะ

ดีใจด้วยที่หนังสือเสร็จแล้ว
ตื่นเต้น อยากเห็นเร็วๆจัง